ลักษณะ
เป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณหัวเข่า ใบเดี่ยวสี่เขียวยาวรีเรียงสลับตรงกันข้าม กาบใบสีแดง
ออกดอกสีขาวหรือสีชมพูอ่อนเป็นช่อที่ยอด
ช่อดอกมีใบประดับเรียงทแยง มองเห็นดอกอยู่ตรงระหว่างกาบใบ แต่ออกไม่บ่อยนัก ส่วนหัวหรือเรียกว่าเหง้ากระชายอยู่ใต้ดิน เหง้ามีรากติดเป็นกระจุกลักษณะเรียวแหลมกระจายออก
แต่ละรากจะมีส่วนตรงกลางใหญ่กว่าส่วนหัวท้าย บางครั้งรากเป็นทรงกระบอก
รากที่แก่แล้วจะมีผิวสีน้ำตาลอ่อน เนื้อในสีเหลือง กระชายโตเร็วมีอายุยืนหลายปี มีหลากหลายพันธุ์คือ กระชายเหลือง กระชายดำ
และการชายแดง ส่วนของเหง้าและรากอยู่ใต้ดินได้นานหลายเดือนแม้ว่าส่วนลำต้นจะร่วงโรยไปแล้ว
กระชายชอบดินร่วนปนทราย ไม่ชอบน้ำขัง
ปลูกขึ้นได้ง่าย
ขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ ตัดเอาใบทิ้งไปเหลือเพียงต้นกับราก 2 – 3 ราก
เอาไปลงหลุมลึก 10 – 15 ซม. กลบดินที่ผสมปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่มในระยะแรก
หากอากาศร้อนไม่ค่อยชุ่มชื้นควรหาฟางมาคลุมไว้ก่อน
หรือปลูกใต้เงาต้นไม้ใหญ่
กระชายโตง่ายไม่ค่อยจะมีโรคหรือแมลงมารบกวน
ใช้เป็นอาหาร
เหง้าและรากมีฤทธิ์เผ็ดร้อน กลิ่นหอม
นิยมใช้เฉพาะเหง้าของกระชายเหลืองเป็นเครื่องเทศปรุงรสในอาหารจำพวกแกงป่าทุกอย่าง
แกงกะทิน้ำยาขนมจีน
ตำแหลกใส่น้ำพริกแกงส้ม
ใส่แกงเลียง
หั่นเป็นชิ้นเล็กยางใส่ผัดเผ็ดต่างๆ
เพื่อดับกลิ่นคาวและให้กลิ่นหอมกับรสเผ็ด
เป็นเครื่องปรุงในห่อหมกปลา
ห่อหมกหน่อไม้
ทำน้ำกระชายสำหรับดื่มแก้กระหาย
ทำไวน์กระชาย
ทำเชื่อมเป็นของว่างสมุนไพรและอื่นๆอีกมากมาย
คุณประโยชน์
ทั้งส่วนราก
เหง้าและลำต้นประกอบด้วยสารระเหย
เหง้าจะมีน้ำมันระเหยอยู่น้อยประมาณ 0.08 เช่น alpinetin,pinocembin,cardmonin,boesenberign
A ,pinostrobin แต่ในส่วนรากยังพบสาร chavicinic acid ด้วย สารเหล่านี้มีฤทธิ์ขับลมในระบบทางเดินอาหาร ยังช่วยยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียได้หลายชนิด ช่วยเจริญอาหาร นอกจากนี้แร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม
เหล็ก
วิตามินเอก็มีในเหง้าและรากอยู่ไม่น้อย
เหง้ากระชายช่วยรักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง
ท้องอืดเฟ้อ ท้องเสียชนิดไม่รุนแรง
แก้โรคปากเปื่อย ปากแห้ง และขับปัสสาวะ
ด้วยการนำเหง้าและรากครึ่งกำมือต้มกับน้ำพอท่วม ดื่มครั้งละ 1 แก้ว
บำรุงกำลังและสมรรถภาพทางเพศ
โดยเฉพาะกระชายดำ
วิธีการทำเพื่อดื่มรักษาโรคนั้นทำโดยใช้เหง้าสด 2 เหง้า บดให้ละเอียด
เติมน้ำปูนใสคั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม
หรือทุบรากพอแหลกแล้วนำไปต้มน้ำดื่มร้อนๆหรือทำเป็นกระชายแห้งบดเป็นผงสำหรับกินเป็นชาร้อนก็ได้
No comments:
Post a Comment