Thursday, December 4, 2014

สรรพคุณในการรักษาโรค ของบอระเพ็ด


                บอระเพ็ด เป็นพืชสมุนไพรไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักกันดี เนื่องจากบอระเพ็ดเป็นสมุนไพร ที่คนไทยนิยมนำมาทำเป็นยารักษาโรคต่างๆมาอย่างช้านาน และยังนิยมนำมาทำเป็นแชมพูรักษารังแคอีกด้วย โดยบอระเพ็ดนั้น จะมีรสชาติที่ขมมาก การจะทานเปล่าๆคงเป็นไปได้ยากมากทีเดียว จึงมีการนำบอระเพ็ด มาผสมกับน้ำผึ้ง หรือไม่ก็ใส่ในอาหาร เพื่อให้ทานได้ง่ายขึ้นนั่นเอง โดยสรรพคุณในการรักษาโรคของบอระเพ็ด มีดังนี้

                1. แก้หวัด ลดไข้
                     บอระเพ็ด สามารถนำมาทานเพื่อลดไข้ และลดอาการตัวร้อนจัดได้ดี โดยเฉพาะอาการไข้ในเด็ก อีกทั้งบอระเพ็ด ยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายของคุณได้อีกด้วย
                2. รักษาริดสีดวง
                     ในคนที่เป็นริดสีดวง ให้นำใบของบอระเพ็ดมาโขลกให้ละเอียดและนำไปพอกไว้ตรงติ่งริดสีดวงที่ยื่นออกมาจากทวารหนัก หรือจะคั้นเอาแต่น้ำของใบบอระเพ็ด มาทาริดสีดวงก็ได้ แต่จะต้องทาเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด และเพื่อให้ริดสีดวงหายเร็วขึ้นนั่นเอง
                3. ลดน้ำตาลในเลือด
                     บอระเพ็ด มีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือดได้ดี จึงเหมาะที่จะนำมาทานเพื่อรักษาโรคเบาหวาน และป้องกันโรคเบาหวานมากทีเดียว

                บอระเพ็ด เป็นพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณมากมาย ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติขมไปหน่อย แต่ก็เป็นดั่งคำโบราณที่ว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา นั่นเอง

Wednesday, December 3, 2014

รักษาแผลอักเสบ ด้วยว่านหางจระเข้


                ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสมุนไพร ที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการอักเสบของผิวหนังได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก ส่วนที่เป็นวุ้นของว่านหางจระเข้นั้น จะมีสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถลดการอักเสบได้ คนส่วนใหญ่ จึงนิยมนำวุ้นของว่านหางจระเข้ มารักษาแผลอักเสบของผิวหนัง หรือโรคทางผิวหนังต่างๆ เช่น แผลน้ำร้อนลวก แผลไฟไหม้ หรือแผลเรื้อรัง เป็นต้น โดยการรักษานั้น จะนำว่านหางจระเข้ มาปลอกเปลือกออก แล้วเอาเฉพาะวุ้นใสๆที่อยู่ส่วนล่างสุดของว่านหางจระเข้มาล้างยางสีเหลืองออกให้หมด จากนั้น นำวุ้นใสๆที่ได้ มาพอกลงบนแผล เป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดอาการอักเสบ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นนั่นเอง       
   
                แต่การใช้ว่านหางจระเข้ รักษาแผลอักเสบที่ผิวหนังนั้น อาจจะทำให้เกิดการแพ้ได้ ดังนั้น ก่อนใช้ว่านหางจระเข้ทุกครั้ง คุณควรทดสอบก่อนว่าผิวของคุณแพ้หรือไม่ โดยให้ลองนำวุ้นของว่านหางจระเข้ มาทาบริเวณท้องแขน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณก็จะสามารถรักษาอาการอักเสบของผิวหนังด้วยว่านหางจระเข้ได้ตามปกติ แต่หากคุณแพ้ คุณควรหยุดใช้ว่านหางจระเข้ทันที และปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องนั่นเอง


                นอกจากรักษา แผลอักเสบแล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถนำมารักษาโรคอื่นๆได้อีกด้วย เช่น โรคท้องผูก แน่นท้อง เป็นต้น 

Monday, December 1, 2014

มะกรูด


                มะกรูด เป็นพืชสมุนไพรไทย ที่มักจะมีอยู่แทบทุกครัวเรือน เนื่องจากมะกรูดนั้น มีประโยชน์และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการทำอาหารเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นคาว เพราะมะกรูด จะช่วยในการดับกลิ่นคาวได้ดีนั่นเอง และยังช่วยให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้นอีกด้วย แต่นอกจากประโยชน์ในการปรุงอาหารแล้ว มะกรูดยังเป็นพืชสมุนไพรไทย ที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นใบ ผิว ราก หรือผล ก็ตาม

                1. ใบมะกรูด
                     ใบมะกรูด สามารถนำมาทานเพื่อขับลมได้ดี จึงไม่ทำให้รู้สึกแน่นท้อง และไม่ทำให้อึดอัดท้องอีกด้วย อีกทั้งใบมะกรูด ยังมีกลิ่นหอม นำมาสูดดมเพื่อผ่อนคลาย และแก้อาการคัดจมูกได้ดีมากทีเดียว
                2. ผิวมะกรูด
                     ผิวมะกรูด นำมาทำเป็นยาขับลมและแก้อาการจุกเสียดได้ดี อีกทั้ง ยังช่วยลดอาการแน่นท้อง และยังช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
                3. รากมะกรูด
                     รากมะกรูด นิยมนำมาทำเป็นยาเพื่อถอนพิษ หรือแก้อาการปวดท้อง ซึ่งจะนำรากมะกรูดมาต้ม และคั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม จะช่วยถอนพิษในร่างกายได้เป็นอย่างดี
                4. ผลมะกรูด

                     ผลมะกรูด นำมาทานเพื่อบำรุงโลหิตในคนที่เป็นโลหิตจาง หรือคนที่เสียเลือดมากได้ดี และยังช่วยแก้อาการเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

Tuesday, November 25, 2014

ประโยชน์น่ารู้ของ มะนาว


                มะนาว พืชสมุนไพรที่มีรสชาติเปรี้ยวจี๊ด เป็นสมุนไพรที่เปี่ยมไปด้วยสรรพคุณในการรักษาโรคอย่างมากมายทีเดียว เพราะในมะนาวนั้น จะมีวิตามิน และแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก จึงสามารถนำมารักษาโรคต่างๆได้ดี โดยสรรพคุณของมะนาว มีดังนี้
                1. ลดอาการเลือดออกในฟัน และบรรเทาอาการไอ
                     มะนาว เป็นพืชสมุนไพรที่มีวิตามินซีสูง จึงช่วยลดอาการเลือดออกในฟันและบรรเทาอาการไอได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมะนาวยังช่วยป้องกันเหงือกอักเสบ และขับพยาธิได้ดีอีกด้วย  คนที่มักจะทานมะนาวบ่อยๆ จึงไม่ค่อยมีอาการปวดฟัน ปวดเหงือก หรือปวดท้อง เหมือนคนอื่นๆ และยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วยนะคะ
                2. สลายนิ่วไนไต
                     เนื่องจากในมะนาวนั้น จะมีกรดที่เรียกว่า กรดซิตริค กรดมาลิค และกรดแอสคอร์บิกอยู่ ซึ่งกรดสามชนิดนี้ จะมีส่วนช่วยในการขับสารพิษ และสลายนิ่วไนไตได้เป็นอย่างดี คนที่เป็นนิ่วในไต จึงควรทานมะนาวและดื่มน้ำมะนาวให้มากๆ เพื่อรักษาอาการนิ่วไนไตนั่นเอง
                เห็นไหมว่า มะนาว เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณและประโยชน์มากมายขนาดไหน ไม่เพียงแต่ที่กล่าวมาเท่านั้น แต่มะนาวยังเป็นพืชสมุนไพร ที่สามารถช่วยในการลดความอ้วน รักษาตาแดง และรักษาอาการไข้หวัดได้อีกด้วย 

Friday, November 21, 2014

ประโยชน์ของชะพลู


                ชะพลู เป็นพืชสมุนไพรไทย ที่มักจะขึ้นเองตามใต้ต้นไม้ใหญ่ต่างๆ โดยใบชะพลูนั้น จะมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ มีรสเผ็ดร้อน เหมาะที่จะนำมาทานกับลาบ ก้อย และน้ำตกมากทีเดียว นอกจากนี้ใบชะพลู ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิวให้ขาวใส หรือการรักษาโรค และยังบรรเทาอาการปวดบวมจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้อีกด้วย โดยประโยชน์ในด้านของการรักษาโรคของชะพลู มีดังนี้
                1. รักษาโรคเบาหวาน
                     เบาหวาน นับว่าเป็นโรคยอดฮิตของคนไทยเลยทีเดียว โดยเฉพาะคนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน หรือคนอ้วนนั่นเอง โดยการรักษาโรคเบาหวานนั้น จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่จะสามารถบรรเทาอาการให้ทุเลาลงได้ โดยการทานยาที่แพทย์สั่ง แต่การทานยาอย่างเดียวคงไม่พอ ดังนั้น เพื่อรักษาโรคเบาหวาน จึงต้องทานใบชะพลูควบคู่ไปด้วย เพื่อให้การรักษาได้ผลมากที่สุดนั่นเอง
                2. รักษาโรคอื่นที่ไม่ร้ายแรง
                     ใบชะพลู สามารถนำทานเพื่อรักษาโรคต่างๆ ที่มีอาการไม่รุนแรงได้ดี เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคบิด หรือนำมาทานเพื่อขับลม เป็นต้น โดยอาจจะทานสดๆ หรือนำมาประกอบอาหารก็ได้
                3. บรรเทาอาการปวด จากแมลงสัตว์กัดต่อย

                     ชะพลู มีส่วนช่วยในการลดอาการอักเสบ และแก้พิษของสัตว์ได้ดี ดังนั้นหากโดนแมลงสัตว์กัดต่อย แล้วมีอาการปวดบวมมาก ให้นำใบชะพลูสดๆ มาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำน้ำที่ได้จากใบชะพลู มาทาให้ทั่วบริเวณที่โดนกัด จะช่วยบรรเทาอาการอาการปวดได้ดีมากทีเดียว

Tuesday, November 18, 2014

ตำลึง สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน


                ตำลึง เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ที่มีลักษณะเป็นเถาเลื้อย โดยจะเลื้อยอยู่ตามรั้วบ้าน หรือตามต้นไม้ต้นอื่นๆ ซึ่งตำลึงนั้น จะมีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรืออาการท้องอืด อีกทั้ง ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวานได้ดีอีกด้วย เนื่องจากน้ำที่คั้นได้จากส่วนต่างๆของตำลึงนั้น มีฤทธ์ในการลดน้ำตาลในเลือดของคนเราได้เป็นอย่างดี  จึงสามารถนำมารักษาโรคเบาหวานได้นั่นเอง โดยการนำตำลึงมารักษาโรคเบาหวานนั้น จะมีสูตรดังนี้

                1. เตรียมส่วนประกอบให้ครบ ซึ่งจะมี ใบตำลึง น้ำเชื่อม น้ำมะนาว น้ำเปล่าที่ต้มสุกแล้ว และเกลือป่น โดยมีอัตราส่วน  20:30:10:100:1 กรัม ตามลำดับ
                2. นำใบตำลึง ไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตั้งพักน้ำไว้
                3. นำใบตำลึงกับน้ำต้มสุก ไปปั่นจนละเอียด แล้วกรองเอาแต่น้ำตำลึงที่ได้
                4. นำน้ำตำลึงที่ได้ มาผสมกับส่วนประกอบอื่นๆที่เตรียมไว้ และนำมาดื่มได้เลย
                5. ดื่มน้ำตำลึง เป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

                เบาหวาน อาจจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การดื่มน้ำตำลึงมากๆ ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการ และช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรงมากขึ้นได้ดีทีเดียว อีกทั้งยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย

ขมิ้นชัน พืชสมุนไพรสารพัดประโยชน์


                ขมิ้นชัน เป็นพืชสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามครัวเรือน เนื่องจาก เป็นพืชที่มีสรรพคุณมากมาย และยังเป็นพืชสมุนไพรที่มีมาอย่างช้านานอีกด้วย โดยขมิ้นชันนั้น มักจะถูกนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร เพื่อให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้น และยังเพิ่มสีสันให้อาหารดูน่าทานมากขึ้นอีกด้วย แต่นอกจากจะนำขมิ้นชันมาทำอาหารแล้ว ขมิ้นชันยังสามารถนำมาทานเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย โดยสรรพคุณในการรักษาโรคของขมิ้นชัน มีดังนี้

                1. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
                     ขมิ้นชัน มีสรรพคุณในการสมานแผลได้ดี จึงสามารถนำมารักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ โดยการนำขมิ้นชันมารักษาแผลในกระเพราะอาหารนั้น อาจจะนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหาร หรือนำมาทำเป็นยาแล้วทานก็ได้ นอกจากนี้ การทานขมิ้นชันบ่อยๆ ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย นะคะ
                2. รักษาอาการท้องเสีย
                     ขมิ้นชัน สามารถนำมารักษาอาการท้องเสียได้ดี เนื่องจากในขมิ้นชันนั้น มีสารชนิดหนึ่งที่สามารถกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการท้องเสียได้ คนสมัยก่อน จึงนิยมนำขมิ้นชันมาทำเป็นยาลูกกลอน เพื่อรักษาอาการท้องเสียนั่นเอง
                3. ต้านการเกิดมะเร็ง
                     ขมิ้นชัน สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้ดี เพียงแค่คุณทานขมิ้นชันบ่อยๆ คุณก็จะห่างไกลจากโรคมะเร็งร้ายแล้วล่ะค่ะ

                ขมิ้นชัน นอกจากนำมาปรุงอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคอย่างมากมายอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว ต้องทานขมิ้นชันกันให้มากๆแล้วล่ะค่ะ